26 มิถุนายน 2554

ว่ากันด้วยเรื่อง....เข็มโครเชต์

              ในปัจจุบันเข็มโครเชต์ หรือที่หลายๆ คนเรียก "เข็มควัก" มีหลากหลายแบบ หลากหลายยี่ห้อมาก โดยปกติจะมีเบอร์ 0 ถึงเบอร์ 14 ค่ะ (เลขของเบอร์ยิ่งมาก ขนาดของหัวเข็มจะยิ่งเล็กลง) แต่วันนี้เอ้จะพูดถึงตัวที่หาซื้อได้ทั่วไปในบ้านเรานะคะ เข็มโครเชต์ที่เห็นโดยทั่วไปจะเป็นยี่ห้อ Tulip ค่ะ โดยปกติจะมีเห็น 2 แบบใหญ่ๆ นะคะ คือ เข็มสีเงินหัวเดียว กับเข็ม 2 หัว

1. เข็มสีเงินหัวเดียว เท่าที่เห็นใช้กันจะมีอยู่ 12 เบอร์ (No.1 - 12) โดยเบอร์ 1 จะหัวใหญ่สุด ส่วนเบอร์ 12จะหัวเล็กสุดค่ะ โดยขนาดของหัวเข็มจะเป็นตามตารางนี้นะคะ
No.
1
2
3
4
5
6
ขนาด (mm.)
1.60
1.50
1.30
1.25
1.10
1.00
No.
7
8
9
10
11
12
ขนาด (mm.)
0.95
0.90
0.85
0.75
0.70
0.60


 2. เข็ม 2 หัว จะมีสีเงิน และสีทอง โดยเบอร์ 1/0 - 2/0 ของ Tulip จะทำเป็นสีเงิน ส่วนเบอร์อื่นจะทำเป็นสีทองนะคะ โดยขนาดของเข็ม 2 หัวนี้จะกลับกันกับเข็มหัวเดียวนะคะ โดยจะมี /0 กำกับขอยู่ด้านหลังเลขเบอร์ เช่น 3/0 หมายความว่า หัวจะใหญ่กว่าเบอร์ 1 ขนาดของหัวเข็มก็ตามนี้เลยค่ะ


No.

1/0

2/0

3/0

4/0

5/0

ขนาด (mm.)

1.60

2.00

2.30

2.50

3.00

No.

6/0

7/0

7.5/0

8/0

10/0

ขนาด (mm.)

3.50

4.00

4.50

5.00

6.00



               ที่เอ้เอาเรื่องเข็มมาพูดถึงเพราะว่ามีเพื่อนๆ หลายคนชอบเข้าใจผิดในเรื่องของหัวเข็ม เช่นคิดว่าเข็มเบอร์ 12 เป็นเข็มที่ใหญ่ที่สุด ส่วนเข็มโครเชต์ยี่ห้ออื่นบางอันก็จะมีกำกับให้อยู่แล้วนะคะว่าขนาดใหญ่กี่มิลฯ
               สำหรับการเลือกใช้เข็มควรเลือกให้เหมาะกับเส้นไหมนะคะ ลองคิดดูนะคะ ถ้าเลือกเข็มหัวเล็กเกินไปเวลาเกี่ยวไหมก็จะเกี่ยวไหมได้ไม่หมดทำให้เส้นไหมแตกได้ค่ะ ทั้งนี้หัวเข็มยิ่งใหญ่ก็จะทำให้ลายถักยิ่งหลวมคร่า อยากให้ชิ้นงานออกมาสวยเลือกเข็มให้เหมาะนะคะ

15 มิถุนายน 2554

ประวัติการถักโครเชต์

เพื่อนรู้กันหรือเปล่าค่ะ ว่าการถักโครเชตต์มีต้นกำเนิดที่ไหน??

               ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษ 1820 ที่ประเทศไอร์แลน์ มาดมัวแซล รีเอโก เดอ ลา บลองชาแดร์  สาวที่ชอบเย็บปักถักร้อยพบว่า ถ้านำอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยของชาวไอริชมาถักลายลูกไม้แบบสเปนจะทำให้ดูสวยงามมากขึ้น จึงทดลองถักหลายครั้งหลายหนนานถึง 5 ปี จนในปี ค.ศ.1836 เธอออกหนังสือลายถักโครเชต์ แต่หนังสือไม่ได้รับการตีพิมพ์แพร่หลายเท่าใดนัก ชื่อเสียงของเธอจึงไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก  อย่างไรก็ตาม จากการตีพิมพ์หนังสือดังกล่าว ทำให้มีศูนย์ถักโครเชต์ทั่วประเทศ โดยศูนย์กลางใหญ่ของทางเหนือ อยู่ที่เมืองคอร์ก และทางใต้อยู่ที่เมืองโคลนส์ ในปี 1845 จึงเริ่มมีการสอนถักโครเชต์กันในโรงเรียน
               สำหรับผู้ที่ทำให้การถักโครเชต์เป็นที่แพร่หลาย ได้แก่ นางดับบลิว.ซี.โรเบิร์ตส์ ซึ่งสอนเหล่าแม่บ้านที่ยากจนให้ถักโครเชต์ เป็นอาชีพ เพื่อนำผลงานถักทอนี้ไปขายแลกเงินมาซื้ออาหาร ความคิดดังกล่าวทำให้เกิดอุตสาหกรรมย่อม ๆ ขึ้นที่เมืองคิลแดร์ โดยมีคนงานราว 700 คน และ 24 คนที่เป็นยอดฝีมือก็ไปเปิดศูนย์ใครเชต์ที่ส่วนต่างๆ ของประเทศ               
               นอกจากนางโรเบิร์ตส์ แล้ว ยังมีนางคาสซันดร้าแฮนด์ อีกคนที่ช่วยทำให้วงการโครเชต์เติบโต ด้วยความที่สามีของนางแฮนด์เป็นวุฒิสมาชิก นางจึงมีบทบาทคอยช่วยเหลือคนจน ด้วยการเปิดอุตสาหกรรมโครเชต์ที่เมืองโคลนส์ กิจการฟูเฟื่องถึงขนาดส่งสินค้าไปขายที่ดับลิน ลอนดอน ปารีสและเวียนนา และในปี 1893 โครเชต์ก็ข้ามทวีปไปฮิตที่อเมริกา

แหล่งที่มา  คอลัมน์ รู้ไปโม้ด  ถามมา-ตอบไปสไตล์ น้าชาติ ประชาชื่น - หนังสือพิมพ์ข่าวสด

09 มิถุนายน 2554

ขนาดของเส้นสำคัญไฉน

สวัสดีคร่า

วันนี้เอ้จะมาแนะนำให้เพื่อนรู้จัก ขนาดของเส้นไหมกันนะคะ

               สำหรับขนาดของเส้นไหมโดยมากเค้าจะเรียกว่า ply. (พลาย) ที่ได้ยินกันบ่อยๆ คือ 1ply., 2 ply., 3 ply., 4 ply.อันนี้ไม่ได้หมายความยิ่ง ply. เยอะจะยิ่งเส้นใหญ่นะคะ แต่คำว่า ply. จะหมายถึงจำนวนของเส้นไหมที่มาตีเกลียวรวมกันเป็นเส้นเดียวค่ะ (ลองจับเส้นมาขยี้ดูก็จะเห็นเส้นไหมเล็กตีเกลียวรวมกันนะคะ) เช่น
  • 1 ply. หมายถึง ไหมเส้นเดียว
  • 2 ply. หมายถึง มีเส้นไหม 2 เส้นมาตีเกลียวรวมกัน
  • 3 ply. หมายถึง มีเส้นไหม 3 เส้นมาตีเกลียวรวมกัน
  • 4 ply. หมายถึง มีเส้นไหม 4 เส้นมาตีเกลียวรวมกัน
ซึ่งขนาดของเส้นไหมจะเล็กหรือใหญ่ ก็ต้องขึ้นกับขนาดลักษณะ-ขนาดของเส้นไหมเองและการตีเกลียวว่าแน่นหรือหลวมขนาดไหนค่ะ

08 มิถุนายน 2554

มา..มะ มาทำความรู้จักไหมพรมกันดีกว่า

สวัสดีค่ะ  มากันต่อนะคะ

               สำหรับเอ้แล้วงานฝีมือที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ คือ งานถักค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนิตติ้ง (Knitting) หรือโครเชตต์ (Chochet) ขอแค่ให้ได้ทำก็มีความสุขมากกกค่ะ แต่ก่อนที่จะมาเริ่มถัก ถัก ถัก แล้วก็ถัก เรามาทำความรู้จักไหมพรมกันก่อนไหมค่ะ

               การจำแนกประเภทของไหมพรมที่นิยมกัน ก็มักจะแบ่งจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตค่ะ แบ่งได้ดังนี้นะคะ

1. ไหมพรมที่ผลิตจากขนสัตว์
ไหมพรมที่ผลิตจากขนสัตว์ โดยส่วนใหญ่จะนิ่มมากๆ ค่ะ และมักจะมีราคาแพงมากเหมือนกัน ถึงไหมพรมประเภทนี้จะนิ่มมาก ตามที่คุณสาวๆ อยากได้ แต่อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับบ้านเราซักเท่าไหร่นะคะ เนื่องจากเป็นไหมที่ให้ความอบอุ่นสูง นั่นคือร้อนนั่นเองค่ะ ซึ่งไหมพรมที่ผลิตจากขนสัตว์นี้ก็จะเป็นพวก Yarn Wool, Cashmere หรือว่าพวกไหมขนกระต่ายก็มีค่ะ

2. ไหมพรมที่ผลิตจากพืช
อันนี้ถ้าจะรู้จักกันดีก็เป็นพวก ไหม (Silk), ไหมฝ้าย (Cotton) ไหมพวกนี้จะระบายอากาศได้ดีค่า

Handmade Fan Club

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ทุกคน

               ก่อนอื่นก็ขอแนะนำตัวเองก่อนเลยจ้า ชื่อ "เอ้" ค่ะ ด้วยความที่เป็นคนงานรักฝีมือนะค่าาา (ถึงแม้จะไม่ค่อยมีฝีมือมากนัก) เริ่มต้นจากการ ถักนู่น ถักนี่ ตามคุณแม่ตั้งแต่ยังเด็ก เวลาเรียน จะชอบวิชางานประดิษฐ์ที่สุด เคยฝันว่าอยากเรียนคหกรรม แต่ก็ไม่ได้ทำตามฝัน  จนตอนนี้ มีโอกาสได้กลับมาทำงานฝีมืออีกครั้ง มีเพื่อนๆ หลายๆ คน มาคอยแลกเปลี่ยน ความรู้ และผลัดกัน โชว์ชิ้นงานน่ารัก...น่ารัก เลยมีความคิดอยากจะทำ blog ให้เพื่อนๆ ที่มีใจรักในสิ่งเดียวกัน มาแบ่งปันสิ่งดี..ดี ร่วมกัน